สื่อออนไลน์ต่างให้ความสนใจ แห่แชร์ภาพและข้อความเตือนอันตรายจากสารเคมีในเคสมือถือกลิตเตอร์ที่มีของเหลวอยู่ภายใน หลังเพจเฟซบุ๊ก 편한일상 โพสต์ภาพผิวหนังที่เกิดอาการแพ้รุนแรงจนเกิดรอยไหม้ หลังสารเคมีจากเคสฟรุ้งฟริ้งไหลมาโดน คาดว่าผู้ที่โดนเป็นชาวเกาหลีใต้ พร้อมข้อความแปลเป็นไทยได้ว่า “เตือนภัยสำหรับเพื่อนๆที่ชอบใช้เคสโทรศัพท์มือถือน่ารักๆ หลังจากที่ซื้อเคสนี้ ฉันก็เอาเก็บมือถือที่ใส่เคสไว้ในกระเป๋ากางเกง แต่ฉันไม่รู้เลยว่าเคสมันแตกเล็กน้อยและของเหลวภายในเคสก็ไหลออกมา รู้ตัวอีกทีกระเป๋ากางเกงก็เปียกโชกแล้ว หลังจากนั้นผิวของฉันกลายเป็นเช่นนี้”
ทั้งนี้หลังเห็นภาพและคำเตือนดังกล่าวชาวเน็ตต่างตื่นตกใจ แห่แชร์ข้อความเตือนภัยนี้ไปทั่วโซเชียลเพราะเคสโทรศัพท์มือถือลักษณะนี้ก็เป็นที่นิยมในไทยเช่นกัน โดย รศ. ดร. เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยโพสต์ถึงกรณีดังกล่าวในเฟซบุ๊กส่วนตัวมาแล้วตั้งแต่ปี 2016 และเตือนว่าจากการเอามาทดสอบพบว่าสารในเคสฟรุ้งฟริ้งเหล่านี้เป็นสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายได้จริงๆ หากรั่วซึมออกมา ดังนั้น การใช้เคสมือถือลักษณะนี้จึงควรระวังเป็นอย่างมาก อย่าไปทำให้มันแตกรั่วซึม ถ้าสัมผัสร่างกาย ให้ล้างออกด้วยน้ำเปล่าเยอะๆ ขณะที่ www.macthai.com ยังเคยเตือนด้วยว่าสารเคมีดังกล่าวหากรั่วออกมาโดนโทรศัพท์ก็จะทำให้เครื่องเสียหาย และหากถูกผิวหนังก็เป็นอันตรายต่อร่างกาย จึงแนะนำว่า ไม่ควรใช้เคสที่เป็นอันตรายต่อมือถือและร่างกาย ต่อให้เคสสวยหรือน่ารักเพียงใด ก็ไม่คุ้มกับอันตรายที่จะเกิดขึ้น
ทางด้านอาจารย์เจษฎ์ก็ออกมาเตือน พร้อมให้ความรู้
วันนี้นักข่าวโทรมาถามเกี่ยวกับเรื่องที่ผมเคยโพสต์ไว้ตั้งแต่ 2 ปี ว่า “ของเหลวในเคสกลิตเตอร์ ทำเนื้อไก่ยุ่ยได้จริงๆ ครับ” ซึ่งเกิดจากข่าวในต่างประเทศ ที่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งอายุแค่ 9 ขวบ
ไปนอนทับโทรศัพท์มือถือที่ใส่เคสแบบกลิตเตอร์ ซึ่งดูเป็นของเหลวมีโลหะสะท้อนแสงเป็นประกายลอยอยู่ใน้ำ แล้วของเหลวจากเคสกลิตเตอร์ก็ไหลมาโดนขาของเธอ จนเกิดอาการไหม้แบบสารเคมีกัด (chemical burn)
ตอนนั้น ผมได้ลองเอาเคสมือถือมาทดสอบ ซึ่งก็มี 3 แบบ คือ แบบที่เป็นกลิตเตอร์ลอยในของเหลวคล้ายน้ำมัน แบบที่มีน้ำกับน้ำมันผสมสีฟ้าและตุ๊กตุ่นเป็ดลอยอยู่ และแบบที่เป็นน้ำสีน้ำตาลทำรูปคล้ายขวดโคล่า (จากซ้ายไปขวา ในรูป)
พบว่าเมื่อเอาเนื้อไก่มาลองแช่น้ำที่ได้จากเคสแต่ละแบบ ก็พบว่าของเหลวจากเคสกลิตเตอร์ (แบบที่ 1) สามารถกัดเนื้อไก่ให้เปื่อยยุ่ยได้ เอาส้อมกดแล้วขาดเป็นชิ้นๆเลยหลังจากแช่ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที … เมื่อลองวัดค่าพีเอช ดูความเป็นกรดด่าง
พบว่าเป็นกรดอ่อน pH ประมาณ 5 กลิ่นแปลกๆ ติดจมูกยังกับมีสารเคมีพวกคลอรีนปน … คนที่ช่วยผ่าเคสกลิตเตอร์ แล้วมือเลอะของเหลวที่ว่า ก็รู้สึกแสบร้อนนิ้วมือที่โดนสารด้วย
ส่วนเคสรุ่นเป็ดลอยน้ำนั้น ไม่ได้มีอันตรายรุนแรงขนาดจะกัดเนื้อไก่ให้ยุ่ยได้ แต่ก็วัดพีเอชได้ค่าเป็นกรดอ่อนพอๆ กันกับเคสกลิตเตอร์ จึงต้องใช้อย่างระมัดระวังเช่นกัน โดยมีคนเคยแจ้งด้วยว่าสัมผัสกับของเหลวนี้แล้วเกิด chemical burn ได้เช่นกัน