อย. ร่วมกับ ตำรวจ บก.ปคบ. บุกทลายโรงงานผลิตเครื่องสำอางรายใหญ่ ย่านคลองสามวา พบของกลางเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางลักลอบใส่สารห้ามใช้ เช่น สารปรอท สเตียรอยด์ ไฮโดรควิโนน และเครื่องสำอางไม่ได้จดแจ้งกว่า 30 รายชื่อการค้า รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ที่หมู่บ้านมีนทอง เลขที่ 69/14 ซอยนิมิตรใหม่ 49 ถนนนิมิตรใหม่ แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และ พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (รรท.ผบก.ปคบ.) ,พ.ต.อ.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ ผกก.4 บก.ปคบ. ,พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ เดชะพันธ์ สว.กก.4 บก.ปคบ. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าตรวจสอบสถานที่ผลิตเครื่องสำอางปลอมภายในหมู่บ้านดังกล่าว
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารที่พักอาศัย มีรั้วรอบขอบชิดเนื้อที่ 100 ตารางวา แบ่งเป็นตัวบ้าน 2 ชั้น 50 ตารางวา อีก 50 ตารางวา ทำเป็นโกดังชั้นเดียวทรงสูง ส่วนที่เป็นโกดังกำลังมีการผลิตครีมเถื่อนหลายรายการ พบอุปกรณ์การผลิต หม้อผสมและพบวัตถุดิบที่เป็นสารต้องห้ามในเครื่องสำอาง เช่น สเตียรอยด์จำนวนมาก
นพ.ธเรศ กล่าวว่า จากการตรวจค้นพบว่ามีสารต้องห้ามใช้อาทิ สารปรอท สเตียรอยด์ และยังพบเครื่องสำอางปลอม เครื่องสำอางไม่ได้จดแจ้ง ประมาณ 30 รายชื่อการค้า ทั้งนี้ อย.ได้ทำเอกสารเผยแพร่เป็นแผ่นพับประชาสัมพันธ์ว่า เครื่องสำอางมีชื่อยี่ห้อใดบ้าง และมีอันตรายอย่างไร โดย อย.พยายามติดตามหาเบาะแส จากผู้แจ้งทางสายด่วน 1556 โดยขณะนี้ผู้บริโภคสามารถดาวน์โหลดแอพลิเคชั่นเพื่อตรวจสอบเลขทะเบียน อย. 10 หลัก ได้ฟรี
ส่วนการตรวจสอบด้วยตัวเอง ให้นำตัวอย่างเครื่องสำอางมาทาที่ใต้ท้องแขนเป็นเวลา 24 ชม. หากเป็นของปลอม จะขึ้นผื่นปวดแสบปวดร้อน และบวม อย่างไรก็ตามหากไม่มั่นใจให้ส่งตรวจสอบที่สาธารณสุขทุกจังหวัด
“สำหรับแหล่งที่พบว่านำไปขาย จะเป็นตามตลาดนัด แผงลอย และจะขายในราคาถูก ซึ่งอันตรายจากเครื่องสำอางปลอม ผสมสารต้องห้ามบางชนิดที่จะสะสมในร่างกาย มีผลกับปลายเส้นประสาทอักเสบ บางรายทำให้ไตเสื่อม บางรายที่ใช้สารทำให้ขาว กลับทำให้หน้าด่าง ถาวร รักษาไม่หาย สารทำให้ขาวเหล่านี้เบื้องต้นจะทำให้ได้ผลเร็ว แต่ระยะยาวผผิวจะแตกลายงาถาวร แก้ไขไม่ได้” นพ.ธเรศ กล่าวและว่าส่วนเว็บไซต์ที่ขายเครื่องสำอางออนไลน์นั้นจะประสานตำรวจกับกระทรวงดิจิตอลฯ เพื่อทำการสั่งปิดเว็บต่อไป
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต กล่าวว่า ของกลางที่ตรวจยึดได้เบื้องต้น มีมูลค่าโดยประมาณ 10 ล้านบาท พร้อมกันนี้ได้ทำการจับกุม นายสกนท์ หงษ์หาด อายุ 37 ปี มาดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.เครื่องสําอาง ปี 2558 โดยกล่าวหาว่า “ผลิตเครื่องสำอางค์ไม่จดแจ้ง ผลิตเครื่องสำอางค์ที่แสดงฉลากไม่ครบถ้วน ทำให้เข้าใจผิด ข้อหามีเครื่องสำอางปลอมที่ไม่ปลอดภัย” มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่จากการสอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพว่าทำมาแล้วประมาณ 1 ปี ต่อจากนี้จะนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางดำเนินคดีที่ บก.ปคบ. ต่อไป