ยาลดความอ้วนที่ขายกันในเนต มีทั้งแบบถูกกฏหมายและผิดกฏหมาย ในความจริงแล้วยาลดความอ้วนมีข้อบ่งใช้สำหรับผู้เป็นโรคอ้วนและออกโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเริ่มใช้ยาในกรณีที่ผู้ป่วยมีค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass Index : BMI) มากกว่าหรือเท่ากับ 30 กิโลกรัมต่อตารางเมตร โดยหากผู้ป่วยรักษาโดยการคุมอาหาร ออกกำลังกายหรือปรับพฤติกรรมในชีวิตแล้วยังไม่ได้ตามเป้าหมาย จึงจะมีการใช้ยาควบคู่ไปด้วย
และอีกหนึ่งตัวที่เป็นที่นิยมในกลุ่มคนลดความอ้วน คือยาลดความอ้วนประเภทดักไขมัน เมื่อทานไปแล้วยาเข้าไป จะมีฤทธิ์ไปยับยั้งเอนไซม์ Lipase ซึ่งถูกสร้างโดยกระเพาะอาหารและตับอ่อน ที่ทำหน้าที่ย่อยไขมันในอาหารจากโมเกกุลใหญ่ก็ทำให้เล็กลง ดังนั้นเมื่อตัวยาเข้าไปยับยั้งเอนไซม์จึงทำให้โมเลกุลไขมันอยู่ในขนาดใหญ่เหมือนเดิมและไม่ถูกย่อยดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และถูกขับออกจากอุจจาระ
ทั้งนี้ความสามารถของยาสูงสุดเพียงร้อยละ 30 ของปริมาณไขมันทั้งหมดที่รับประทานเข้าไปเท่านั้น ถึงแม้จะทานยาที่เกินขนาดก็ไม่สามารถขับไขมันได้ทั้งหมดอยู่ดี และกลไกการออกฤทธิ์ของยา orlistat ยังส่งผลข้างเคียงดังนี้
– มีน้ำมันปนออกมาจากอุจาระ ซึ่งเป็นไขมันที่เกิดจากฤทธิ์ยา
– ถ่ายอุจจาระบ่อยครั้งกว่าปกติ
– ปวดมวน คล้ายจะถ่ายแต่ไม่ถ่าย ไม่สบายท้องและผายลมบ่อย
– ทำให้วิตามินชนิดละลายด้วยไขมันมีประสิทธิภาพลดลง